น่าเป็นห่วงฟอร์มการเล่นของบุรีรัมย์

        หลังจากที่การแข่งขันฟุตบอลไทยลีกได้เริ่มต้นฟาดแข้งกันไปแล้วเป็นอาทิตย์แรกก็มีทั้งทีมที่โชว์ฟอร์มได้ดีและทีมที่ฟอร์มการเล่นนั้นน่าเป็นห่วง แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงฟอร์มการเล่นของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ดกันบ้าง โดยเป้าหมายในปีนี้ของบุรีรัมย์ยูไนเต็ดนั้นก็คือการกลับมาทวงความยิ่งใหญ่  ให้ได้เหมือนกับที่พวกเขาเคยทำได้เมื่อช่วงสองถึงสามปีที่แล้ว  แต่ว่าในปีที่แล้วนั้นพวกเขาประสบปัญหาเรื่องผู้เล่นตัวหลักได้รับการบาดเจ็บ ทำให้ฟอร์มการเล่นไม่ดีหนักและไม่ได้แชมป์อะไรมาครองเลยในปีนั้น  สบู่โฮยอน

        กลับมาปีนี้พวกเขาตั้งความหวังในการที่จะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยในปีนี้นั้นพวกเขาได้เสริมทัพเข้ามาจำนวนหนึ่งทั้งนักฟุตบอลต่างชาติที่ถือว่าเป็นจุดแข็งของบุรีรัมย์ในทุกๆปี และก็นักเตะไทยซึ่งส่วนมากพวกเขาจะเสริมทัพนักเตะไทยที่เป็นดาวรุ่งหรือว่าเป็นนักฟุตบอลที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากนักแต่ว่าโชว์ฟอร์มได้ดีนั้นเองง  เรื่องของนักเตะเข้านั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่พบเห็นได้ในทุกปีของบุรีรัมย์อยู่แล้วแต่ในปีนี้ที่ แตกต่างนั้นก็คือเรื่องของนักฟุตบอลที่ย้ายทีมออกไปนั้นเอง ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะพยายามถ่ายเลือดใหม่เข้ามาสู่ทีมโดยนักเตะดังของทีมที่ได้ย้ายออกไป ตั้งแต่ปีที่แล้วก็อย่างเช่น ธีรธร บุญมาทัน และที่พึ่งย้ายออกไปเพิ่มเติมในปีนี้ก็อย่างเช่น อนาวิน จูจีน และอีกหลายๆคน  สบู่โฮยอน

        เรื่องฟอร์มการเล่นในปีนี้นั้นนักเตะที่โดนจับตามองมากที่สุดว่าจะเป็นจุดอ่อนของทีมนั้นก็คือ ชิติพัฒน์  แท่นกลาง ซึ่งแฟนบอลหลายคนบอกว่าฝีเท้าของเขานั้นยังไม่ดีพอที่จะเป็นตัวจริง ของทีม แต่ดูเหมือนว่ามีกระแสของแฟนบอลต่อต้านนักเตะคนนี้มากเท่าไหร่ ทีมก็ยังคงส่งเขาลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ จนเมื่อนัดเปิดฤดูกาลที่ผ่านมา การพบกับชลบุรี นั้นเจ้าตัวก็มีส่วนในการเสียประตูในครึ่งแรกทั้งสองประตูก่อนที่จะโดนเปลี่ยนตัวออกและทีมกลับมายิงประตูคืนได้สองประตูจบด้วยผลการเสมอกัน

        และแล้วก็ดูเหมือนว่าแฟนบอลจะหมดความอดทนกับการจัดตัวผู้เล่นและพยายามดันผู้เล่นบางคนมากจนเกินไป จนได้มีแฟนบอลบางส่วนออกมาแสดงความคิดเห็นว่าหากยังมีการ ส่งผู้เล่นรายดังกล่าวลงสนามต่อไปพวกเขาก็จะเลิกเชียร์บุรีรัมย์ไปเลย หลังจากนี้ก็คงต้องเฝ้าจับตามองว่าจะมีการดำเนินการจากสโมสรยังไงบ้างและหากว่าทีมยังยืนยันที่จะส่งตัวนักเตะคนดังกล่าวลงสนามอย่างต่อเนื่องแล้ว

#S7content

ระบบการฝึกฟุตบอลของญี่ปุ่น

        ช่วงเดือนแรกของปี 2560 นี้วงการฟุตบอลบ้านเราคึกคักและเต็มไปด้วยแม็ตการอุ่นเครื่องกับทีมสโมสรจากประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ฟุตบอลสี่เส้าที่มีทีมร่วมการแข่งขันทั้งหมดสี่ทีมด้วยกันเป็นทีมจากประเทศญี่ปุ่นสองทีมและทีมจากประเทศไทยสองทีมเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติที่มีมาอย่างยาวนาน โดยสองสโมสรของไทยที่ลงเล่นในรายการนี้ได้แก่ สุพรรณบุรีเอฟซี และ แบงค์คอก ยูไนเต็ด ซึ่งผลปรากฏว่าทีมจากประเทศไทยสามารถชนะทีมจากญี่ปุ่นได้เพียงหนึ่งเกมส์จากทั้งหมดสี่เกมส์ด้วยกัน ผมดูเกือบทุกคู่และสิ่งที่สังเกตได้ถึงความแตกต่างของนักฟุตบอลไทยและนักฟุตบอลจากญี่ปุ่นนั้นก็คือ พละกำลัง และความสามารถเฉพาะตัวซึ่งพวกนักเตะญี่ปุ่นสามารถเล่นบอลใกล้ๆได้ และเวลาที่ต้องปะทะกับนักเตะต่างชาติพวกเขาก็สามารถที่จะสู้ได้อย่างสูสี นอกจากฟุตบอลสี่เส้าแล้วก็ยังมีการแข่งขันของทีมพันธมิตรอย่างบางกอกก๊าซเอฟซีกับทีมจากญี่ปุ่นที่เป็นพันธมิตรกัน ซึ่งรูปแบบการเล่นและทักษะของนักเตะญี่ปุ่นก็ไม่แตกต่างกันมากนัก

        หากย้อนไปยี่สิบกว่าปีก่อนหากเอยถึงการแข็งขันฟุตบอลญี่ปุ่นถือว่าเป็นทีมนอกสายตาและถ้าแข่งกับทีมไทยก็แพ้ทีมไทยอยู่เป็นประจำเพราะว่าในช่วงแรกๆนั้นกีฬาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่นนั้นไม่ใช่กีฬาฟุตบอลแต่ว่าเป็นกีฬาเบสบอล พวกเขาเริ่มด้วยการเขียนแผนพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติโดยเป็นแผนระยะยาวระยะเวลากว่าสิบปีเลยทีเดียว โดยในช่วงแรกของการก่อตั้ง เจลีกนั้นญี่ปุ่นจะนิยมจ้างทั้งผู้ฝึกสอนและก็นักฟุตบอลมาจากประเทศบราซิล เจลีกพัฒนาขึ้นมาเรื่อยจนในทุกวันนี้ผู้เล่นญี่ปุ่นนั้นสามารถไปเล่นในลีกระดับท๊อปของโลกได้อย่างสบายๆ  นอกจากนั้นพวกเขายังเน้นในนเรื่องของการพัฒนานักเตะมาตั้งแต่ระดับเยาวชน โดยมีการสนับสนุนทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน และที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เด็กๆหลายๆคนอยากที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพนั้นก็เป็นเพราะว่าค่าตอบแทนนั้นมากพอสมควร เฉลี่ยแล้วห้าแสนบาทต่อ ต่อคนนั้นคือค่าเฉลี่ยซึ่งก็หมายความว่ามีคนที่ได้มากกว่านี้และได้น้อยกว่านี้ และตอนนี้ เจลีกกำลังมุงขยายตลาดความสนใจมาอยู่ในภูมิภาคอาเซียนโดยการให้โครต้านักเตะอาเซียน เพื่อเป็นการดึงดูให้ประชากรในประเทศต่างๆนั้นหันไปสนใจเจลีกกันมากขึ้นพวกเขาก็จะสามารถขายลิขสิทธิ์การถ่ายทดอสดได้มากขึ้นร่วมไปถึงการที่พวกเขาจะสามารถขายชุดแข่งของสโมสรต่างๆได้มากเพิ่มขึ้นไปอีกด้วย ก็ได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งทีมในบ้านเราและนักเตะในบ้านเราจะก้าวเข้าไปสู่จุดนั้นได้บ้างนะครับ

#s7content